วันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ว่าด้วยเรื่อง ดอกเบี้ยแบบทบต้น





ดอกเบี้ยแบบทบต้น ถ้าพูดตามแบบง่ายๆก็คือ ผลตอบแทนที่เราได้จากเงินลงทุนทั้งหมด + เงินต้น เรานำไปลงทุนต่อทั้งหมดโดยที่ไม่เอาออกมาใช้เลย

“ The most powerful force in the universe is compound interest. ”

By Albert Einstein

เป็นคำพูดนึงของนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนนึงของโลก ซึ่งแปลว่า “พลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาล คือ ดอกเบี้ยทบต้น” คำพูดของบุคคลที่ยิ่งใหญ่น่าเชื่อถือได้แค่ไหนลองดูจากตารางครับ

สมมติเรามีเงิน 1 บาทนำไปฝากธนาคาร ธนาคารให้ดอกเบี้ยเรา 5%ต่อปี เมื่อครบ 5 ปีเราจะมีเงิน 1.28 บาท และเมื่อครบ 30 ปีเราจะมีเงิน 4.32 บาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 4 เท่า

สมมติเรามีเงิน 1 บาทเท่าเดิมและนำไปฝากธนาคารที่ให้ดอกเบี้ย 20% ต่อปี เมื่อครบ 5 ปี เราจะมีเงิน 2.49 บาท เมื่อครบ 30 ปีเราจะมีเงิน 237.38 บาท ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 237 เท่า

แล้วถ้าเรามีเงิน 1ล้านบาทละ เวลาผ่านไป 30 ปีด้วยดอกเบี้ย 20% เราจะมีเงินถึง 237 ล้านบาท!!
เวอร์!!!ไปรึเปล่า ขอตอบว่า เวอร์มาก

ในความเป็นจริงดอกเบี้ยเงินฝากจากธนาคาร 0.5-1% หักเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นปีละ 1-4% ทุกปีหักภาษีอีก 15% ก็หมดไม่เหลืออะไรแถมอาจขาดทุนอีก และอย่าลืมว่าปลายปีนี้รัฐบาลจะประกันเงินฝากแค่ 1 ล้านบาทเท่านั้นดังนั้นการฝากเงินกับธนาคารอย่างเดียวจึงมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นแน่นอน แล้วจะออมเงินยังไงดี?

ปัจจุบันมีทางเลือกในการออมเงินเกิดขึ้นมากมายทั้ง การทำประกันต่างๆ การลงทุนในตราสารหนี้ ตราสารทุน และกองทุนรวมต่างๆมากมาย แต่ผมจะพูดถึงตราสารทุน (หุ้น)

อัตราผลตอบแทนจากตลาดหุ้นนั้นเฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 8-12%

Warren Buffett สามารถทำผลตอบแทนได้เฉลี่ยปีละ 20%
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร สามารถทำได้เฉลี่ยปีละ 40% [ข้อมูลปี 50]
Quantum Fund ของ Soros ให้ผลตอบแทน 32%

ทุกคนล้วนเริ่มต้นจากเงินน้อยๆ จนเป็นมหาเศรษฐี!!

จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่แล้ว นักลงทุนที่เก่งๆและทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการลงทุนมักจะมีผลตอบแทนที่มากกว่าตลาด
ลองคิดดูนะครับว่าคำพูดของ คุณลุง ไอน์ สไตน์ ดูเวอร์ไปรึเปล่า

ขอหยิบยกคำกล่าวของ ท่านจูกัดเหลียง (ขงเบ้ง)

“เพราะแสวงหา มิใช่เพราะรอคอย
เพราะเชี่ยวชาญ มิใช่เพราะโอกาส
เพราะสามารถ มิใช่เพราะโชคช่วย”
ดังนี้แล้ว " ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน "

“ หากเราหมั่นฝึกฝนอย่างหนัก ทุกๆวัน ถึงแม้เราจะไม่มีพรสวรรค์ใดๆเลย ถึงแม้มันจะหนักและเหนื่อยยากแค่ไหน แต่ผมก็จะเชื่อในความพยายาม ” ^^

วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Trading Record 002



Month


Week



                                                                                  Day


แนวโน้ม SET Index สัปดาห์นี้

ในภาพใหญ่ [Week,Month] หลังจากที่ย่อตัวลงมาก็เริ่มเห็นสัญญานกลับตัวบ้างแล้ว
ส่วนในภาพเล็ก [Day] ยังคง Sideway อยู่และเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว SET ได้ขึ้นไปทดสอบ 1186 แล้วก็มีแรงเทขายออกมา...ทำให้เกิดลักษณะของแท่งเทียนที่เรียกว่า Shooting Star (ไม่ใช่ Hangman นะพิมพ์ผิดแต่ความหมายเดียวกันคือ กลับตัว) แถวๆแนวต้านซึ่งทำให้ SET ในวันพรุ่งนี้มีโอกาสย่อต่อลงมาอีก

ส่วนเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ต่างชาติเริ่มกลับมาซื้อติดต่อกันหนักๆถึง 2 วันโดยเฉพาะวันศุกร์ที่มียอดซื้อถึง 5000 กว่าล้านบาท ซึ่งถือว่ามากแม้จะเป็น Big Lot ซะส่วนใหญ่ก็ตาม

ดัชนีต่างประเทศ ทั้ง Dowjones Dax และ Hangseng ถ้าดูจากกราฟแล้วเริ่มเห็นทิศทางที่ดีขึ้น แล้วถ้าสามาถทำ New High ได้ก็จะส่งผลดีต่อ SET ในสัปดาห์นี้

สรุป
วันพรุ่งนี้ถือว่าดูยากมากครับว่าจะออกมาทางไหน เพราะตลาดยังคง Sideway อยู่อาจเจอแรงขายออกมาอีกหรืออาจจะดีดกลับไปทดสอบ High เดิมก็ได้ เพียงแต่สัญญานเข้าซื้อที่ชัดเจนในสัปดาห์นี้มี 3 อย่างครับ

1.ปิดสิ้นวันพรุ่งนี้ต่างชาติซื้อสุทธิ อีกสัก 1-2พันล้านบาท
2.ถ้า SET ทะลุ 1186 และสามารถยืนอยู่ได้ ซึ่งถือว่าเป็นการทะลุขึ้นมาจาก Zone Pivot ของ Fibo ก็ถือเป็นสัญญานขึ้นต่อ
3.ตลาดต่างประเทศสามารถทำ Higher High ได้

ปัจจัยที่ต้องระวัง
-ปัญหาหนี้ยุโรป ที่ยังหาทางออกที่ชัดเจนไม่ได้

ปิดท้ายด้วยคำคมเล็กน้อย ^^

"เวลาเป็นเรื่องที่สำคัญ ที่เราต้องคำนึงถึงตลอดการใช้ชีวิตของเรา"

จากหนังสือ Trader's Journey 1000 Miles